การขั บขี่รถยนต์เป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝนเพื่อให้เกิดความชำนาญ ดังนั้นผู้ขั บรถจำเป็นต้องเรียนรู้ทักษะในการขั บให้ถูกต้องและปลอ ดภั ย เนื่องจากพฤติก ร ร มการขั บรถของแต่ละคนแตกต่างกัน เราจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการขั บรถ แต่หล า ยคนอาจจะยังไม่ทราบดีนักเกี่ยวกับพฤติก ร ร มการขั บรถของตัวเองว่าสามารถปฏิบัติได้อ ย่ างถูกต้องหรือไม่
ในทุกวันนี้การขั บรถและการใช้รถใช้ถนน หล า ยคนยังคงมีความเชื่อบางอย่ างที่ผิ ดอยู่ และมักทำต ามๆกันจนเกิด อุ บั ติเ ห ตุ ขึ้นอยู่บ่อยครั้ง บางครั้งก็เป็ นอุ บั ติ เ ห ตุเ ล็กน้อย แต่อุ บั ติ เ ห ตุ ร้ า ย แ ร งที่ทำให้มีผู้เ สี ย ชี วิ ตก็มีให้เห็นใน ข่ า วกันอยู่บ่อยๆเพราะความประม า ท และความไม่รู้รวมทั้งความไม่ใส่ใจในการทำต ามก ฎ จ รา จ รให้ถูกต้อง ในวันนี้เราจะนำเรื่องความเชื่อที่หล า ยคนยังเข้าใจผิ ดมาฝากกัน 9 เรื่อง ดังนี้
1 เลนขวาวิ่งได้ตลอ ดถ้าขั บเร็ว
ความจริงแล้วการขั บรถแช่อยู่ในเลนขวาไม่ว่าจะความเร็วเท่าใดก็ไม่สมควร เพราะเลนขวาต ามกฎจราจรมีไว้สำหรับการแซงเท่านั้น เมื่อแซงแล้วก็ควรกลับไปวิ่งในเลนซ้ายต ามปกติ
2 ความเชื่อเรื่องการวอร์มเครื่องยนต์ก่อนออ กเดินทาง
หล า ยคน มักจะติดเครื่องยนต์และเบิ้ลเครื่องรถก่อนขั บออ กถนน ซึ่งความจริงแล้วไม่มีความจำเป็นที่จะต้องทำเช่นนั้น เนื่องจากทำให้เปลืองน้ำมันโดยใช่เ ห ตุ เพราะการออ กตัวของรถก่อนที่จะออ กสู่ถนนใหญ่ก็ถือเป็นการวอร์มเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดอยู่แล้ว การที่เราขั บรถออ กจากบ้านหรือขั บถึงหน้าปากซอยจะทำให้รถทำงานในรอบเครื่องที่ต่ำซึ่งเป็นการวอร์มเครื่องที่เพียงพอแล้ว
3 การใช้แตรรถ
แตรรถนั้น มีประโยชน์ในการบอ กหรือเตือนเพื่อนผู้ร่วมใช้รถใช้ถนน และยังอาจเป็นสัญญาณที่ใช้เตือนเมื่อมีเ ห ตุต่างๆเกิดขึ้น โดยเราควรเลือ กใช้ระดับเ สี ยงและจังหวะในการบีบแตรให้ถูกต้องและไม่ใช้รบกวนผู้อื่น
4 ความเชื่อที่ว่ารถใหญ่ผิ ดเสมอ
หล า ยคนเชื่อ กันว่าไม่ว่าจะเกิด อุ บั ติ เ ห ตุ ขึ้นเพราะฝ่ายใดผิ ดก็ต าม รถใหญ่กว่าจะเป็นฝ่ายผิ ดเสมอ ซึ่งความจริงนั้นการตัดสินก็จะต้องพิจารณาทุกอย่ างบนความถูกต้องเป็นหลัก ไม่จำเป็นว่าเป็นรถใหญ่แล้วจะต้องผิ ดตลอ ด และการใช้ประโยชน์จากกล้องหน้ารถก็สามารถช่วยให้การตัดสินเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
5 เลี้ยวซ้ายผ่ านตลอ ดไม่เสมอไป
หล า ยคนยังเข้าใจผิ ดในเรื่องของการเลี้ยวซ้ายผ่ า นตลอ ด เพราะในบางแยกก็ไม่ได้ใช้กฎเดียวกันนี้ หากแยกใดสามารถเลี้ยวซ้ายผ่ านตลอ ดได้ก็จะมีป้ายจราจรคอยบอ กไว้ แต่หากไม่มีก็ต้องรอสัญญาณไฟเขียวเช่นเดียวกับรถทางตรงเช่นกัน
6 เปิดไฟฉุ ก เ ฉิ น เพื่อไปตรง
การเปิดไฟ ฉุ ก เ ฉิ นเพื่อขอทางไปตรง เป็นพฤติกร รมที่เห็นและใช้กันบ่อย แต่ความจริงแล้วการทำแบบนี้ก็เ สี่ ยงทำให้เกิด อุ บั ติ เ ห ตุ ได้เช่นกัน เพราะรถที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งมักมองไม่เห็นสัญญาณไฟของเราทั้งสองด้าน ทำให้อาจเกิดความเข้าใจผิ ดว่าเราจะเลี้ยวได้
7 การจอ ดรถหันหน้าเข้า
ลานจอ ดรถส่วน มากมักจอ ดรถเอาด้านหน้าเข้ากัน แต่ต ามหลักควรจอ ดหันหน้ารถออ ก จะดีกว่า เพราะหากเกิดกรณีแบตหมดหรือรถเ สี ย จะสามารถเปิดกระโปรงหน้ารถเพื่อพ่วงแบตจากรถคันอื่นหรือเพื่อซ่อมแซมเครื่องยนต์ได้สะดวกมากกว่า
8 การใช้เกียร์ P ตอนติดไฟแดง
เมื่อเราจอ ดรถติดไฟแดงหล า ยคน มักใช้เกียร์ P ซึ่งไม่ควรทำเพราะหากเกิดอุ บั ติ เ ห ตุ มีรถชนด้านหลัง จะทำให้ระบบเกียร์เ สี ยห า ยรุ น แ ร งได้ เกียร์ P นั้นควรใช้ต่อเมื่อจอ ดรถในลานจอ ดรถเท่านั้น
9 ความเชื่อที่ว่าถุง ล ม นิ ร ภั ย จะไม่ทำงานหากไม่คาดซีทเบลท์
ผู้ผลิตรถยนต์มักจะคำนึงถึงความป ล อ ด ภั ย ของผู้ขั บขี่มาก่อนเสมอ จึงสร้างระบบให้เราคาดเข็มขัดทุกครั้งที่ขั บรถ และระบบของเข็มขัด นิ ร ภั ย กับถุงลมนั้นก็ทำงานแยกจากกันคนละระบบ ที่เห็นว่า รถเบรคกระทันหันแต่ถุงลมไม่ทำงานนั้นอาจเป็นเพราะแ ร งเบรคหรือแ ร งชนไม่มากพอที่ทำให้ถุงลมทำงาน
9 เรื่อง ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นการใช้รถใช้ถนนในแบบที่ผิ ดและมักทำต ามๆกัน มา ซึ่งต ามหลักแล้วควรทำความเข้าใจใหม่ และทำให้ถูกต้องจะดีกว่าเพราะหากเกิดก ร ณี ฉุ ก เ ฉิ น จะช่วยทำให้ป ล อ ด ภั ยมากยิ่งขึ้น
ที่มา krustory