หล า ยๆคนอาจจะคิดว่าเมื่อเราโตขึ้น หรืออายุมากขึ้นก็ต้องกล า ยเป็นผู้ใหญ่ แต่การที่เราจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดี หรือมีความคิดที่เป็นผู้หญ่ ให้ผู้คนนับถือนี่สิจะทำอ ย่ างไร เพราะบางคนนั้นแค่โตแต่ตัวเท่านั้น แต่ความคิดนั้นก็ยังเหมือนเ ด็ กอยู่เลย
คุณเคยได้ยินไหม บางคนยังเป็นเ ด็ ก แต่มีความคิดแบบผู้ใหญ่ แต่ผู้ใหญ่บางคน ยังมีความคิดเเบบเ ด็ กๆ วิ ธีคิดแบบไหนที่เรียกว่ายังไม่โต แบบไหนที่เรียกว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว เราได้รวบรวม 5 วิ ธีคิด ที่จะช่วยให้คุณกล า ยเป็นผู้ใหญ่ที่ประสบความสำเร็จและมีความสุขในชีวิตเพิ่มขึ้นกว่าเดิมเพราะ คนเป็นผู้ใหญ่ เขามักมี 5 ข้ อนี้
1 ยืดหยุ่น
ปรับแผนได้ มีแผนสอง แผนสาม หรืออย่ างน้อยก็สามารถปรับเปลี่ยนแผนที่กำหนดไว้ได้ ไม่ใช่ตึงเปรี๊ยะ จนไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้อีก เพราะการวางแผนเป็นการคิดล่วงหน้า สามารถคาดเดาเหตุการณ์ในอนาคตได้ว่า
ถ้าเราทำสิ่งนี้ ผลลัพธ์มันน่าจะเป็นอะไร แต่เราไม่สามารถฟั นธงได้ว่ามันจะเกิดขึ้นแน่นอน และทุกอย่ างไม่ได้เป็นอย่ างที่ใจต้องการทั้งหมด จึงไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่ างได้
ปรับตัวได้ ทำตัวให้เหมือนกับน้ำ ที่สามารถปรับไปต ามสภาพของภาชนะ คือ เข้าได้ในทุกสถานการณ์ แต่ไม่สูญเ สี ยความเป็นตัวของตัวเอง เป็นเหมือนต้นไม้ที่ลู่ไปต ามแรงลมได้ แต่ก็กลับมาตั้งตรงได้เหมือนเดิม
ดังนั้น สิ่งที่เราต้องทำเมื่อได้วางแผนไปแล้วก็คือ เชื่อมั่นว่าเราจะสามารถรับมือได้ จัดการได้ ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นอย่ างไรก็ต าม เผชิญหน้าได้ สามารถเผชิญหน้ากับปัญหาอุปสรรคและความท้าทายได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน งานเยอะ งานย าก งานหนัก เราก็สามารถจัดการได้ เพราะเชื่อในความสามารถของตัวเอง
2 คิดบวก
ขอบคุณได้ เมื่อเราคิดบวก จะรู้สึกขอบคุณในสิ่งที่เรามี ขอบคุณโอกาสที่ได้รับ ขอบคุณสิ่งดีๆ ที่คนอื่นหยิบยื่นให้ โลกภายในใจเปลี่ยนไป มองว่าโชคดีมากขึ้น และเมื่อขอบคุณบ่อยๆ จนเป็นนิสัย จะรู้สึกถึงความพอเพียง พอใจ ภูมิใจในตัวเอง เชื่อมั่นและมั่นใจในตัวเอง และมีความสุขมากขึ้น
โฟกัสได้ เมื่อเรารู้ว่าอะไรดี ไม่ดี เราจะเลือ กโฟกัสในด้านดีๆ เห็นด้านดีๆ ในตัวเองมากขึ้น เผยด้านดีๆ ในตัวเองออ กมา พร้อมทั้งโฟกัสด้านบวกในตัวคนอื่นได้ดีขึ้น มองเห็นจุดเด่นของคนอื่น มองข้ามข้ อเ สี ยของคนอื่น หรือถ้าเป็นเรื่องงาน มีปัญหาความท้าทายเข้ามา ก็สามารถมุ่งความสนใจไปที่การทำงานให้ผ่ านไปได้ด้วยดี มากกว่าที่จะโฟกัสในด้านลบบั่นทอนจิตใจทำให้ทำงานได้ช้าลง
พลิกกลับได้ ในสถานการณ์ที่ไม่ดี สามารถมองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ในนั้น เชื่อว่า ความท้าทายจะทำให้เราเป็นคนเก่งและแกร่งขึ้น รับมือ กับปัญหาและอุปสรรคได้เร็วขึ้น เพราะใจที่พร้อมเสมอ กับการเปลี่ยนแปลง แม้จะมีความทุ ก ข์ผ่ านเข้ามา ก็ไม่ทุ ก ข์นาน เพราะรู้ว่ามันเหมือนฤดูกาลที่สุดท้ายก็พัดผ่ านไป
3 ใจกว้าง
เรียนรู้ได้ ถ้าเราเปิดใจออ กให้กว้าง เราจะมีพื้นที่เปิดรับสิ่งใหม่ๆ ได้อีกมาก เพราะเข้าใจว่าความรู้ในตัวเรานั้น มีน้อยนิด เหมือนเป็นน้ำครึ่งแก้วที่มีวันเติมได้อีกเรื่อยๆ พร้อมที่จะเรียนรู้เรื่องราวต่างๆ ด้วยใจที่ปราศจากอคติ เปิดใจรับฟัง สนใจอ่ า น มากขึ้น ชอบพัฒนาตนเอง และเรียนรู้วิ ธีการเปลี่ยนพฤติก ร ร มหรือปรับวิ ธีคิดของเรา เพื่อชีวิตที่สงบและพบความสุขมากขึ้น เพราะมีความเชื่อว่า คนเราเปลี่ยนแปลงกันได้ เพียงแค่ให้โอกาสตัวเองได้เปลี่ยนแปลงเท่านั้น
ยอมรับได้ การยอมรับความจริง ทำให้เราเป็นอิสระและไปต่อได้ สามารถยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็น ซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเอง เป็นตัวของตัวเองได้ และยอมรับในความแตกต่างของกันและกัน ยอมรับในความคิดเห็นของคนอื่น ไม่ตัดสินคนอื่นถ้ายังไม่รู้จักเขาดีพอ จะทำให้เราพอใจในชีวิตของตัวเอง และเข้าใจคนอื่น มากขึ้น เช่น ถ้าอ กหัก แล้วยอมรับว่า คนนั้นไม่ใช่คู่แท้ของเรา ก็จะเปิดใจรอคนที่ใช่ได้เร็วขึ้น
ให้อภั ยได้ การให้อภั ยตัวเอง ทำให้เราเป็นอิสระจากความรู้สึกผิ ดและพร้อมที่จะเป็นคนที่ดีขึ้นได้ และการให้อภั ยคนอื่น จะทำให้เรายอมรับในสิ่งที่เขาเป็น มากขึ้น และเป็นอิสระจากความไม่พอใจหรือคิด แ ค้ นโ ท ษคนอื่น แถมยังเป็นแรงผลักดันให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้นได้อีกด้วย แม้ว่าความสัมพันธ์อาจจะไม่เหมือนเดิม แต่อย่ างน้อยก็ไม่ทำให้เรายึดติดอยู่กับอ ดีตอีกต่อไป
4 มองไกล
อ ดทนได้ เมื่อเรามองไกล มองเห็นถึงอนาคตของปัจจุบันที่กำลังทำอยู่ รู้ว่าถ้าอ ดทนแล้วจะได้ดี รู้ว่าอ ดกลั้นแล้วจะผ่ านไปได้ด้วยดี เช่น อ ดทนกับความเหนื่อยย าก เพราะรู้ว่าถึงจะลำบาก สุดท้ายก็สบายทีหลัง อ ดกลั้นที่จะไม่ทำร้ า ยจิตใจคนอื่น เพราะรู้ว่าสุดท้ายแล้วเราจะได้ไม่รู้สึกผิ ด
หรืออ ดกลั้นกับความสะดวกสบายช ั่วคราว เพื่อให้ได้รับความสุขระยะย าวในภายหลัง เช่น อ ดทนประหยัดเงิน หารายได้พิเศษ เพื่อจะได้ชำระหนี้ได้หมดเร็วๆ หรืออ ดทนไม่เล่นโซเชียลมีเดียในเวลางาน จะได้ทำงานส่งทันเวลาและกลับบ้านได้เร็ว เป็นต้น
คิดย าวได้ เวลาที่เราคิดสั้น มักจะหุนหันพลันแล่น ทำอะไรไปโดยไม่คิด หงุดหงิดง่าย แต่ถ้าเราคิดย าวเมื่อไหร่ จะได้ความเข้าใจชีวิตที่มากขึ้น เช่น เรารู้ว่าที่ตั้งใจอ่ า นหนังสือเรียนเพื่ออะไร ออ กกำลังกายไปเพื่ออะไร มีระเบียบวินัยไปทำไม ขยันทำงาน รับผิ ดชอบในหน้าที่ไปเพื่ออะไร
รู้ว่าเวลาไหนควรทำงานหรือเรียน เพื่อให้มีเวลาพักและเล่นได้นานขึ้น และเราจะเ สี ยโอกาสอะไร หากเราไม่ลงมือทำทันที รวมทั้งเข้าใจธรรมชาติของชีวิตที่เหมือนฤดูกาล มีทุ ก ข์ มีสุข หมุนเวียนกันไป ไม่มีอะไรอยู่ได้นานหรือยั่งยืน เมื่อเข้าใจชีวิตมากขึ้น เราก็จะปล่อยวางได้ง่ายขึ้น และยอมรับสถานการณ์ที่ผ่ านเข้ามาได้มากขึ้น ไม่ยึดติดอยู่กับสิ่งใดนานๆ เพราะรู้ว่าอีกเดี๋ยวก็ผ่ านไป
ตั้งเป้าได้ เมื่อเราเริ่มคิดถึงอนาคต และถามใจตัวเองว่า เราจะอยู่เพื่ออะไร ถ้าเราไม่มีเป้าหมายอะไรเลย เราจะกล้าตัดสินเพื่อตัวเองง่ายขึ้น เริ่มตั้งเป้าหมายในชีวิต ออ กมาจาก Comfort Zone เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเอง พัฒนาตัวเอง ทำสิ่งที่อย ากทำ และทำฝันให้เป็นจริง
5 ปล่อยวาง
รอคอยได้ ถ้าเราได้ทำอย่ างเต็มที่แล้ว ที่เหลือก็แค่ปล่อยวาง เราไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่สามารถจัดการได้ เ ด็ กส่วนใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจคำว่าปล่อยวาง เพราะมักจะมีอารมณ์ร้อน อย ากเห็นผลลัพธ์ในทันที แต่ต้นไม้ไม่สามารถงอ กแล้วโตได้ในวันเดียว คอนโดมิเนียมไม่สามารถสร้างเสร็จในวันเดียว จึงต้องรู้จักการรอคอย และมีความสุขในระหว่างทาง
สม่ำเสมอได้ เช่น ถ้าเราอย ากมีหุ่นดี ก็ต้องขยันออ กกำลังกายเพื่อสร้างกล้ามเนื้อให้ฟิตและแข็งแรง ซึ่งไม่สามารถทำได้ในวันเดียว ต้องทำอย่ างสม่ำเสมอ หรือถ้าเราอย ากจะเก่งในเรื่องอะไร มันไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์แต่เป็นเรื่องของความสม่ำเสมอในการฝึกซ้ำๆ จนชำนาญ ซึ่งก็ควรจะฝึกด้วยความรู้สึกดี มีความสุข ไม่ใช่เร่งวันเร่งคืน เพื่อให้ถึงวันที่ต้องการ
เชื่อใจได้ เชื่อว่าสุดท้ายมันจะเป็นไปได้จริง เชื่อว่าแต่ละคน มีจังหวะเวลาชีวิตที่ไม่เหมือนกัน ถ้าเราปล่อยวางเป็น เราจะมีความสุขอยู่กับปัจจุบัน และมั่นใจว่าผลลัพธ์ที่เกิดไม่ว่าจะเป็นอะไร มีแต่ดีกับดี เช่น ถ้าผลลัพธ์ออ กมาดี ก็สุขใจ แต่ถ้ามีความท้าทายเกิดขึ้น แสดงว่าความท้าทายนั้นจะมาฝึกให้เราปรับเปลี่ยนอะไรบางอย่ าง เพื่อให้ผลลัพธ์ออ กมาดีได้อย่ างแท้จริง
ความคิดของคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีได้เสมอ หากใช้วิ ธีการที่เหมาะสม ลองเขียนบันทึกประจำวันลงไปในไดอารี่ ว่าเราคิดอย่ างไรกับตัวเอง มองคนอื่นในด้านไหน หรือเรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์ในวันนี้ จะสังเกตเห็นได้ชัดเจนว่ามีความคิดแบบผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ทั้งนี้จะต้องเป็นการเขียนบันทึกในเชิงคิดบวก เขียนขอบคุณ เพราะจะฝึกให้เราสามารถคิดเป็น เรียนรู้ชีวิต และพลิกความคิดให้เป็นบวกได้
แม้เ ด็ กๆ จะรู้สึกว่า ไม่อย ากโตมาเป็นผู้ใหญ่ ต้องรับผิ ดชอบอะไรหล า ยๆ อย่ าง แต่การเป็นผู้ใหญ่ทำให้เรามีอิสระทางความคิด สามารถเลือ กทำในสิ่งที่อย ากทำ แต่จะต้องไม่ลืมว่า จะต้องรับผิ ดชอบในการกระทำที่เราเลือ กด้วย ถ้าเราคิดแบบผู้ใหญ่ ต่อให้เราอยู่ในสถานการณ์ไหน ก็สามารถผ่ านไปได้ด้วยดี แล้วจะกลัวอะไรกับการเป็นผู้ใหญ่ ถ้าเรามีวิ ธีคิดที่ดี
ที่มา sabuyjaijung