![](https://www.kiddidee.com/wp-content/uploads/2022/11/Pok04-773-850x491.jpg)
สำหรับคนเป็นพ่อแม่ย่อมอย ากเห็นลูกโตมาเป็นคนเก่ง ฉลาดสามารถทำอะไรเองได้โดยที่ไม่ต้องรอให้พ่อแม่ต้องมาช่วย ฉนั้นการที่จะทำให้ลูกนั้นเก่งเราต้องทำอ ย่ างไร วันนี้เรามีเรื่องดีๆมาฝากกัน
รู้ไหม ถ้าคุณแม่ลอง ขี้เกียจ แล้วปล่อยให้ลูกเรียนรู้ที่จะเป็นอิสระ ช่วยเหลือตนเอง จะทำให้ลูกเป็นคนเก่ง วันนี้มีงาน วิ จั ย ของต่างชาติเผย 3 ข้ อที่หากแม่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้ องด้วยน้อยที่สุดจะส่งผลดีกับลูกเป็นอ ย่ างมาก
1. ขี้เกียจขยับมือ สอนให้ลูก รู้จักพึ่งพาตนเอง พ่อแม่ต้องขี้เกียจต ามเก็บกวาดให้ลูกทุกอ ย่ างควรปล่อยให้เขารู้จักพึ่งพาตัวเองบ้างบางสิ่งที่ลูกสามารถทำเอง ได้ไม่จำเป็นต้องยื่น มือเข้าไปช่วยทุกครั้งไปเช่น ห้องนอนลูกที่ดูไม่เป็นระเบียบแค่เตือนให้เขารู้ตัวว่าต้องทำ
แต่ไม่ต้องไปทำให้ลูกเราควรจะเน้นไปที่การสอนให้ลูกดูแลความส ะ อ า ดบริเวณพื้นที่ส่วนรวมของบ้าน เช่น ห้องรับแขก ห้องรับประทานอาห ารและเมื่อลูกเห็นว่า พื้นที่อื่นในบ้านส ะ อ า ด เขาจะรู้สึกว่า เขาต้องทำความส ะ อ า ดห้องนอนตัวเองให้ส ะ อ า ดเหมือนกัน
ผลปรากฎว่าเมื่อพ่อแม่ขี้เกียจช่วยเหลือลูกในบางเรื่องส่งผลให้ลูกฝึกทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเองมากขึ้น และเป็นการฝึกนิสัยพึ่งพาตัวเอง มีความรับผิ ดชอบต่อสิ่งรอบตัวและจะทำให้ลูกมีความรับผิ ดชอบต่อตัวเองมากขึ้น เมื่อเขาโตไปจะกล า ยเป็นคนที่สามารถรับผิ ดชอบได้ดีรู้จักหน้าที่ของตัวเอง
2. ขี้เกียจบ่น ให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเอง ในหล า ยครอบครัว คนเป็นพ่อเป็นแม่มักจะตั้งความหวัง ไปที่ลูกมากจนเกินไปจนทำให้ลูกอึดอัดและกดดัน กล า ยเป็นไม่สนใจและไม่อย ากฟังสิ่งที่เราจะพูด แต่สำหรับครอบครัวนี้เขากลับใช้เวลา ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ในการชวนลูกมาเล่นเกม และไม่ต้องทำการบ้านโดย
คุณแม่จะถามว่า ลูกกะจะเล่นเกมถึงกี่โมง
ลูกตอบ ขอเล่นอีก 30 นาที
แม่ตอบกลับไปว่า โอเค ต้อง รั ก ษ า คำพูดนะ
เมื่อถึงเวลา 30 นาที แม่เดินกลับมาดู และยังเห็นลูกเล่นเกมอยู่ คุณแม่ก็รู้สึกไม่พอใจ แต่ยังสงบอารมณ์ได้และพูดกับลูกอ ย่ างใจเย็นว่า ปกติลูกเป็นคน รั ก ษ า คำพูดไม่ใช่เหรอ เมื่อลูกได้ฟังคำพูดของแม่ ก็เริ่มรู้สึดผิ ดต่อสิ่งที่ทำ จึงเดินไปปิดสวิตช์ และรีบไปทำการบ้านทันที
นี่เป็นสาเหตุมาจาก การเป็นคนน่าเชื่อถือของคุณแม่ท่านนี้ เ พ ร า ะเวลาคุณแม่รับปากอะไรกับลูกไว้เธอ ก็จะทำต ามนั้นได้เป๊ะ ๆ ไม่เคยผิ ดคำพูดกับลูก เช่น จะพาลูกไปเที่ยว จะซื้อของเล่นให้เธอ ก็ทำต ามคำพูดได้ทุกครั้ง มันแสดงให้เห็นว่าคุณแม่ท่านนี้เป็นคนที่ให้ความสำคัญกับการ รั ก ษ า คำพูดเป็นอ ย่ างมาก
เมื่อรับปากอะไรไว้ ก็ต้องทำให้ได้และสอนลูกให้รู้จักรับผิ ดชอบต่อคำพูดของตัวเองแล้วคำพูดก็เลยดูศักดิ์สิทธิ์ ผลปรากฎว่าพ่อแม่ ที่ไม่บ่นเรื่อนเปื่อย แต่ใช้วิ ธีปลูกฝังจิตสำนึกให้ลูกแทนใช้เหตุผลในการคุยกับลูกมากกว่าอารมณ์
สอนให้ลูกรู้จัก รั ก ษ า คำพูดของตัวเองและทำต ามที่พูดไว้อ ย่ างเคร่งครัดทำให้ลูกให้ความสำคัญกับคำพูดมากโดยที่เราไม่ต้อง ไปบ่นให้เขามากมายเขาสามารถสำนึกและคิดได้เองถ้าอย ากให้ลูกช่วยเหลือตัวเองเป็น ให้ลูกได้ลองลงมือปฎิบัติ ถ้าอย ากให้ลูกกล้าแสดงความคิดเห็นให้ฝึกถามเพื่อให้ลูกกล้าแสดงความคิดเห็นถ้าอย ากให้ลูกมีวินัย พ่อแม่ต้องรู้จัก รั ก ษ า คำพูดถ้าอย ากให้ลูกพูดเ พ ร า ะหรือมีมารย าท ต้องทำให้ลูกเห็นทุกวัน
3. ขี้เกียจช่วยลูกทำการบ้าน คุณแม่ท่านหนึ่ง ได้เล่าประสบการณ์ของตัวเองว่าเธอไม่เคยสอนหรือช่วยทำการบ้านให้ลูกของเธอเลยแม่จะบอ กลูกแค่ว่า ให้ทำการบ้านเวลาไหนควรทำเวลาไหน แล้วก็ไล่ให้ลูกไปทำ พอทำเสร็จก็ค่อยบอ กแม่ และเธอก็จะไม่ตรวจสอบว่าลูกทำถูกต้องหรือไม่
เ พ ร า ะการตรวจสอบนั้น มันเป็นหน้าที่ของลูก หรือให้รู้ว่าถูกผิ ดจากที่โรงเรียนคุณแม่แค่เซ็นชื่อ ให้เท่านั้นเองช่วงแรก ๆ ลูกของเธอก็แสดงอาการไม่พอใจและพูดว่า ทำไมแม่ถึงขี้เกียจแบบนี้ แม่คนอื่นเขาช่วยตรวจการบ้านให้ลูกกันทั้งนั้น
เธอจึงตอบลูกไปว่า ที่แม่ไม่ตรวจการบ้านลูกไม่ใช่เ พ ร า ะแม่ขี้เกียจหรอ กนะ แต่ลูกลองคิดดูสิ ถ้าแม่ตรวจให้ แล้วลูกจะรู้ได้ไงว่าตัวเองทำผิ ดตรงไหน แล้วตอนสอบเวลาลูกทำผิ ด จะรู้ไหมว่าผิ ดตรงไหนลูกต้องฝึกตรวจความถูกต้องด้วยตัวเองเรียนรู้ด้วยตัวเอง
เ พ ร า ะในห้องสอบไม่มีใครช่วยลูกได้จำไว้นะลูก ตอนลูกอยู่ในโรงเรียน ลูกจะได้รับบทเรียนก่อนแล้วถึงได้ทำข้ อสอบ แต่สำหรับในโลกความจริง ลูกจะต้องเจอบททดสอบก่อน ถึงจะได้บทเรียนการที่เธอขี้เกียจสอนการบ้าน หรือช่วยลูกทำการบ้าน ทำให้ลูกเรียนรู้ด้วยตัวเองได้มากที่สุด
ลูกจะได้รู้จักพึ่งพาตัวเอง ก่อนที่จะขอความช่วยเหลือจากคนอื่นเสมอ หากคิดไม่ออ กหรือทำไม่ได้ ค่อยมาขอคำแนะนำจากแม่ได้ผลปรากฎว่า สำหรับพ่อแม่ที่มีนิสัยขี้เกียจตีกรอบความคิดให้ลูกแต่ปล่อยให้ลูกคิดเองอ ย่ างอิสระหรือทำทุกอ ย่ างด้วยการตัดสินใจของตัวเองได้อ ย่ างอิสระแต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจยังให้ความสนใจลูกและคอยดูอยู่ห่างๆ จะทำให้ลูสามารถเผชิญ กับปัญหาได้ดีเขาจะมีภูมิคุ้มกัน มีปีกที่แข็งแรงพอและอยู่ได้ด้วยตัวเอง แม้วันหนึ่งคุณจะไม่ได้อยู่ปกป้องเขาแล้วก็ต าม
ที่มา l i e k r verrysmilejung